วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2567

Humen metapneumovirus infection

hMPV เป็นเชื้อไวรัสใน family Pneumoviridae ค้นพบมาตั้งแต่ปี 2001 แต่เชื่อว่าเป็นสาเหตุของการติดเชื้อทางเดินหายใจทั่วโลกมามากกว่า 60 ปี ข้อมูลล่าสุดพบว่าการติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดจาก hMPV 5 สายพันธุ์ ได้แก่ A1, A2a, A2b, B1, B2 พบเป็นสาเหตุประมาณ 9.8% ของการติดเชื้อทางเดินหายใจทั้งหมด

 

กลไกการติดเชื้อ

·      มีการติดเชื้อผ่านการสัมผัสหรือผ่านละอองฝอยขนาดใหญ่ ในระยะติดต่อไม่เกิน 6 ฟุต มีระยะฟักตัวเชื่อว่าอยู่ประมาณ 5-9 วัน

·      หลังจากระยะฟักตัวประมาณ 1 สัปดาห์จะมีการแพร่เชื้อสูงสุด และหลังการแพร่เชื้อสูงสุด 1-2 วันจะมีอาการมากที่สุด

·      การติดเชื้อจะทำให้เซลล์ผนังทางเดินหายใจเพิ่มขึ้นผิดปกติ มีการสร้างเมือกปริมาณมาก และหลอดลมมีความไวมากขึ้น  ทำให้ทางเดินหายใจอุดตันและทำให้เกิดอาการหอบ

·      สามารถเกิดการติดเชื้อในทางเดินหายใจทั้งส่วนบนและส่วนล่างในทุกกลุ่มอายุ แต่มักจะมีอาการเฉพาะในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปีและในคนสูงอายุมากกว่า 65 ปี

 

อาการ

·      ส่วนมากมักไม่รุนแรง หลังระยะฟักตัวจะไม่มีอาการอยู่หลายวันตามมาด้วยอาการของทางเดินหายใจส่วนบนประมาณ 1 สัปดาห์แล้วค่อยๆดีขึ้น

·      ในรายที่มีการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง จะเริ่มมีอาการหอบหลังจากติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน 1-2 วัน หลอดลมตีบมักจะเป็นอยู่หลายวัน ในรายที่มีความเสี่ยงอาจจะมีอาการหอบเป็นๆหายๆได้หลายสัปดาห์

·      ความรุนแรงอาจเป็นได้ตั้งแต่ bronchiolitis, asthma exacerbation, pneumonia, จนถึง ARDS

 

การวินิจฉัย ทำการตรวจ rt-PCR ซึ่งจะตรวจหาเชื้อชนิดอื่นไปพร้อมกัน

·      CXR มักไม่จำเพาะอาจจะมี perihilar opacities, hyperinflation, atelectasis

·      CBC มักไม่จำเพาะอาจจะพบ lymphocytes ลดลงและมีสัดส่วน monocyte เพิ่มขึ้น

 

การรักษา

·      รักษาตามอาการ ไม่แนะนำให้ใช้ยา antivirus แม้ว่าจะมียาที่ได้ผลในห้องทดลองเช่น ribavirin

·      การติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วยพบน้อยไม่แนะนำให้ใช้ antibiotics

 

การป้องกัน

·      ในโรงพยาบาลแนะนำให้อยู่ห้องเดี่ยว และป้องกันการแพร่เชื้อจากการสัมผัสโดยตรงและโดยอ้อม รวมถึงการล้างมือ

·      เด็กที่ติดเชื้ออาจจะมีการแพร่เชื้ออยู่ได้หลายวันจนถึงหลายสัปดาห์ แต่เนื่องจากเป็นเชื้อที่พบได้ทั่วไป เมื่อเด็กอาการดีขึ้นก็สามารถกลับไปโรงเรียนได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น